5 สุดยอดของว่าง อาหารหัวใจ
กินไม่เลือกระวังจะสร้างไขมันมาอุดหัวใจ ไปดูกันดีกว่าว่าของว่างอร่อยๆ ช่วยบำรุงหัวใจมีอะไรบ้างแอปเปิ้ลเป็นความจริงที่ว่าการกินแอปเปิ้ลวันละผลจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรงพยาบาล ในการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ แอปเปิ้ลเป็นอันดับสองของผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด(รองลงมาจากแครนเบอร์รี่) และยังมีใยอาหารชื่อเพคติน ควรทำปฏิกริยากับไฟโตนิวเทรียนท์อื่นๆ โดย สารต้านอนุมูลอิสรนะชื่อ Quercetin พบในแอปเปิ้ลจะช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เป็นบ่อเกิดของโรคหลอดเลือดหัวใจและ ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว ในขณะที่เพคตินช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล “เลว” แอปเปิ้ลยังมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบอีกด้วย
Tip : แอปเปิ้ลทุกชนิดดีต่อหัวใจของคุณ แต่แอปเปิ้ลแดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
บลูเบอร์รี่
เบอร์รี่ชนิดนี้เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะแมงกานีส วิตามินซีและอี) ซึ่งให้การป้องกันในระดับเซลล์เลยทีเดียว นอกจากการช่วยลดคอเลสเตอรอล “เลว” พร้อมกับการเพิ่มคอเลสเตอรอล “ดี” แล้ว ไฟโตนิวเทรียนท์ยังจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ แถมยังช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้ปกติอีกด้วย
Tip : บลูเบอร์รี่ที่ปลูกแบบออร์แกนิกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด หากเป็นไปได้กินทุกวันก็ยิ่งดี ส่วนบลูเบอร์รี่แช่แข็งนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยลงมา
ดาร์กช็อกโกแลต
การศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร British Medical Journal ชี้ว่า มีอาหารเจ็ดกลุ่มที่จะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้ถึงร้อยละ 75 และหนึ่งในนั้นก็คือดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งมีปริมาณโกโก้อยู่สูง โกโก้มีสารจำพวกฟลาวานอลที่ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดแดงได้ จึงช่วยลดโอกาสเกิดหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าดาร์กช็อกโกแลตช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
Tip : กินแค่น้อยๆ ประมาณไม่เกิน 2 ตารางนิ้วต่อครั้ง และเลือกที่มีปริมาณโกโก้เกิน 70%
องุ่น
องุ่นมีสารอาหารปกป้องหัวใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี บี6 โพแทสเซียม และฟลาวานอยด์ สารอาหารเหล่านี้รวมกันจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยในการสูบฉีดเลือด โดยเฉพาะวิตามินบี6 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบ ลดโอกาสเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวและความดันโลหิต
Tip: ไม่ว่าจะองุ่นสดหรือองุ่นแช่แข็งก็มีสารอาหารเต็มเปี่ยมเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้กินเมล็ดด้วยนะ
อัลมอนด์
อัลมอนด์มีสารอาหารที่ดีต่อหัวใจมากมายได้แก่ ใยอาหาร วิตามินอี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม โดยแมกนีเซียมนั้นจะช่วยให้ระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ส่วนโพแทสเซียมสำคัญต่อการสูบฉีดเลือด นอกจากนี้ อัลมอนด์ยังเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นไขมันที่ดี ในการศึกษามากมายชี้ว่าไขมันชนิดนี้ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจได้
Tip: โรยอัลมอนด์กินกับแอปเปิ้ลคู่กับเนยถั่วแบบไม่หวาน ทั้งท้องอิ่มและดีต่อหัวใจด้วยนะ
Tip : แอปเปิ้ลทุกชนิดดีต่อหัวใจของคุณ แต่แอปเปิ้ลแดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
บลูเบอร์รี่
เบอร์รี่ชนิดนี้เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะแมงกานีส วิตามินซีและอี) ซึ่งให้การป้องกันในระดับเซลล์เลยทีเดียว นอกจากการช่วยลดคอเลสเตอรอล “เลว” พร้อมกับการเพิ่มคอเลสเตอรอล “ดี” แล้ว ไฟโตนิวเทรียนท์ยังจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ แถมยังช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้ปกติอีกด้วย
Tip : บลูเบอร์รี่ที่ปลูกแบบออร์แกนิกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด หากเป็นไปได้กินทุกวันก็ยิ่งดี ส่วนบลูเบอร์รี่แช่แข็งนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยลงมา
ดาร์กช็อกโกแลต
การศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร British Medical Journal ชี้ว่า มีอาหารเจ็ดกลุ่มที่จะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้ถึงร้อยละ 75 และหนึ่งในนั้นก็คือดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งมีปริมาณโกโก้อยู่สูง โกโก้มีสารจำพวกฟลาวานอลที่ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดแดงได้ จึงช่วยลดโอกาสเกิดหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าดาร์กช็อกโกแลตช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
Tip : กินแค่น้อยๆ ประมาณไม่เกิน 2 ตารางนิ้วต่อครั้ง และเลือกที่มีปริมาณโกโก้เกิน 70%
องุ่น
องุ่นมีสารอาหารปกป้องหัวใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี บี6 โพแทสเซียม และฟลาวานอยด์ สารอาหารเหล่านี้รวมกันจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยในการสูบฉีดเลือด โดยเฉพาะวิตามินบี6 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบ ลดโอกาสเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวและความดันโลหิต
Tip: ไม่ว่าจะองุ่นสดหรือองุ่นแช่แข็งก็มีสารอาหารเต็มเปี่ยมเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้กินเมล็ดด้วยนะ
อัลมอนด์
อัลมอนด์มีสารอาหารที่ดีต่อหัวใจมากมายได้แก่ ใยอาหาร วิตามินอี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม โดยแมกนีเซียมนั้นจะช่วยให้ระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ส่วนโพแทสเซียมสำคัญต่อการสูบฉีดเลือด นอกจากนี้ อัลมอนด์ยังเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นไขมันที่ดี ในการศึกษามากมายชี้ว่าไขมันชนิดนี้ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจได้
Tip: โรยอัลมอนด์กินกับแอปเปิ้ลคู่กับเนยถั่วแบบไม่หวาน ทั้งท้องอิ่มและดีต่อหัวใจด้วยนะ
อยากมีความจำดี...วิตามินอีช่วยได้
วิตามินอี....ช่วยให้สมองและความจำดี
จากงานวิจัยพบว่าการที่ได้รับวิตามินอีอย่างเพียงพอจะช่วยบำรุงสมอง โดยเฉพาระเรื่องความจำในคนชาร ผลการทดลองกับคนชาร 2900 คน ให้ทำแบบทดสอบความจำ 2 ชุด ทดสอบทีละชุดในช่วงเวลาที่ห่างกัน 3 ปี พบว่าชายที่กินวิตามินอีเสริมในปริมาณ 200-400 หน่วยสากล ทำแบบทดสอบได้คะแนนเท่ากันทั้งสองชุด ชายที่กินในปริมาณที่น้อยกว่า ได้คะแนนครั้งหลังต่ำกว่า เพราะสูญเสียความจำไปบางส่วน
ถั่ว เมล็ดธัญพืช และผักใบ ล้วนแต่เป็นแหล่งของวิตามินอี วิตามินอีจากธรรมชาติจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีเป็น 2 เท่า ของวิตามินอีสังเคราะห์ เมื่อได้รับในปริมาณที่เท่ากัน...
ถั่ว เมล็ดธัญพืช และผักใบ ล้วนแต่เป็นแหล่งของวิตามินอี วิตามินอีจากธรรมชาติจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีเป็น 2 เท่า ของวิตามินอีสังเคราะห์ เมื่อได้รับในปริมาณที่เท่ากัน...
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น