อาชีพเสริม 2557 : เฉาก๊วยพลิกโฉม หน้าตาดี รสชาตเลิศ ทำเป็นอาชีพเสริม รายได้ดี ยี่ห้อ “ดัมดีดัม” พลิก โฉมขนมหวานอย่าง “เฉาก๊วย” ด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งสินค้าจากเดิมที่คนทั่วไปจะคุ้นชินว่าเป็นขนมโบราณแบบ บ้านๆ มาเป็นขนมทันสมัยสำหรับตลาดบน ผ่านการเติมไอเดียผสมผสานให้เกิดเป็นเมนูแปลกใหม่ เสิร์ฟในรูปลักษณ์สวยงามสะดุดตา ขณะเดียวกันเลือกใช้วัตถุดิบเกรดเอ เพื่อให้รสชาติประทับใจลูกค้าที่ได้ลิ้มลอง
|
ภูรินท์ แจ่มจำรัส เจ้าของกิจการเฉาก๊วย “ดัมดีดัม” เล่าแนวคิดให้ฟังว่า ในวัยเด็กแทบทุกคนคงเคยกินขนมเฉาก๊วยใส่ชามสังกะสีขายตามรถเข็น แต่พอโตขึ้น โอกาสจะได้กินเหมือนอดีตจะน้อยลง อีกทั้ง ภาพของเฉาก๊วยที่คนทั่วไปคุ้นเคย คือ ขนมโบราณขายราคาถูก ดังนั้น เฉาก๊วยจึงเป็นขนมที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยมีการปรับรูปแบบให้ทันสมัยมาก่อน
อีกทั้ง ในท้องตลาดเวลานี้ เฉาก๊วยจะมีเฉพาะสำหรับตลาดล่าง กับกลางเท่านั้น แต่สำหรับเฉาก๊วยที่มุ่งตลาดระดับพรีเมียมอย่างจริงจังยังไม่มีเลย |
|
แบบดั้งเดิม เป็นเฉาก๊วยน้ำเชื่อมในน้ำแข็งเกล็ดหิมะโรยด้วยน้ำตาลอ้อย ชื่อ “Simply ก๊วย” |
|
|
จากช่องว่างทางการตลาดที่มอง เห็น ประกอบกับมีปัจจัยเอื้อที่ญาติทำโรงงานผลิตเฉาก๊วยอยู่แล้ว เป็นที่มาของการสร้างธุรกิจเฉาก๊วยโฉมใหม่มุ่งเจาะตลาดบนอย่างชัดเจน ในชื่อ “ดัมดีดัม” |
|
เมนู "ก๊วยเจ๋ง" เฉาก๊วยกับไอศกรีมเจลลาโต้ ราคา 45 บาท |
|
|
เจ้าของกิจการ อธิบายต่อว่า สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนตำแหน่งตลาดเฉาก๊วยของ “ดัมดีดัม” ไล่ตั้งแต่ปรับเมนูให้แปลกใหม่ ควบคู่กับปรับภาพลักษณ์ให้ดูออกมาทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ได้แก่ นำเฉาก๊วยมาทำเป็นน้ำปั่นเกร็ดหิมะ ให้ชื่อว่า “Smoothie ก๊วย” เฉาก๊วยกินคู่กับไอศกรีมเจลลาโต้ รสผลไม้ไทย ในชื่อ “ก๊วยเจ๋ง” และแบบดั้งเดิม เป็นเฉาก๊วยน้ำเชื่อมในน้ำแข็งเกล็ดหิมะโรยด้วยน้ำตาลอ้อย ชื่อ “Simply ก๊วย” |
“ผมพยายามสร้างนวัตกรรมทางอาหาร ไม่เสิร์ฟเฉาก๊วยแบบเดิมๆ เพื่อที่เปลี่ยนให้ภาพของเฉาก๊วยดูทันสมัยยิ่งขึ้น เน้นความสะอาดปลอดภัย และกินง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคนเมือง รวมถึง ปรับรูปโฉมภายนอกให้สอดคล้องกับตำแหน่งสินค้า ทั้งรูปแบบร้าน โลโก้ บรรจุภัณฑ์ และชุดเครื่องแบบพนักงานให้ออกมาดูดี” ภูรินท์ เผย และกล่าวต่อว่า |
นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือ คุณภาพของเฉาก๊วย เจาะจงเลือกใช้เฉาก๊วยแท้ๆ เท่านั้น ต่างจากเฉาก๊วยในท้องตลาดที่มักจะผสมสี และวุ้น โดยคัดเลือกพันธุ์เฉาก๊วยมาจากประเทศจีน และเวียดนาม ซึ่งมีจุดเด่นไม่มีรสขม และไม่มีกลิ่นเหม็น เนื้อเฉาก๊วยจะเหนียวนุ่ม ขณะที่กระบวนการผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานด้านความสะอาดปลอดภัย
เขา เผยว่า ใช้เวลาสำรวจตลาด และวางแผนธุรกิจก่อนที่จะออกตลาดจริงกว่า 1 ปี ใช้เงินส่วนตัว ลงทุนเบื้องต้นเกือบ 4 แสนบาท วางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ที่ตลาดบน เน้นไปที่คนเมืองตั้งแต่วัยรุ่นถึงผู้ใหญ่ โดยกำหนดราคาขายปลีก ได้แก่Smoothieก๊วย แก้วละ 30 บาท ก๊วยเจ๋ง ถ้วยละ 45 บาท และ Simplyก๊วย ถ้วยละ 35 บาท |
|
น้ำปั้นเกล็ดหิมะ |
|
|
“ผม ยอมรับว่า ครั้งแรกที่ลูกค้าเห็นราคาจะต้องมีสะดุดคิด เพราะราคาจะสูงกว่าเฉาก๊วยในท้องตลาด ประมาณ 5-15 บาท แต่ผมเชื่อว่า ถ้าลูกค้าได้ทดลองชิมสักครั้ง เขาจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ระหว่างเฉาก๊วยที่เคยกินทั่วๆ ไป กับเฉาก๊วยของผม ซึ่งด้วยคุณภาพนี้ ผมเชื่อว่า ลูกค้าจะรู้สึกคุ้มค่าและยอมรับราคาได้” เจ้าของไอเดียเผย
ด้านการทำตลาดนั้น ภูรินท์ ระบุว่า ขณะนี้จะอาศัยออกร้านขายตามงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจ ประกอบกับใช้เป็นเวทีสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลตอบรับด้วยดี ส่วนแผนอนาคตอันใกล้ กำลังติดต่อขอเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟฟ้า กำหนดไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ (2553) จะเปิดสาขาด้วยตัวเองประมาณ 3 จุด ส่วนแผนระยะยาว หลังแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และรูปแบบธุรกิจทุกด้านลงตัว จะขยายธุรกิจโดยเปิดรับผู้สนใจมาเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ต่อไป
|
|
ตกแต่งหน้าร้านให้ดูทันสมัย |
|
|
"โทร.08-1857-2365 หรือ www.dumdeedumblackjelly.com"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Manager Online |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น