ปาท่องโก๋ย่าง ราดซอส |
วิธีทำอาชีพเสริม หารายได้เสริม แนวคิดในการทำปาท่องโก๋โบราญมาย่างรีดน้ำมัน กินคู่กับไอศครีม ปาท่องโก๋ ที่ไม่ใช่แค่ปาท่องโก๋อีกต่อไป สำหรับ “ร้านปาท่องโก๋” ย่านบางลำพูแห่งนี้ สร้างจุดดึงดูดวัยโจ๋แบบอินเทรนด์ สุดยอดแนวคิดใหม่สร้างรายได้เสริม ทำเป็นอาชีพเสริม งานสำรองใช้เวลาไม่นาน
การนำปาท่องโก๋โบราณมาย่างรีดน้ำมัน กินคู่กับไอศกรีม Home made และราดด้วยซอสรสชาติต่างๆ จนลงตัว ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวที่จะทานเจ้าปาท่องโก๋ แล้วจะอ้วนเพราะน้ำมันแน่นอน! เรามาดูรายละเอียดที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า...
ฐิติกร โชคะสุต เล่าว่า ทำธุรกิจนี้มา 60-70 ปี ตั้งแต่รุ่น พ่อ-แม่ซึ่งเดิมขายอยู่ที่สนามหลวง จะรู้จักกันในชื่อ “ปาท่องโก๋โต้รุ่ง” เพราะเปิดขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึง 9 โมงเช้า ส่วนสาขาบางลำพูนี้เปิดได้ประมาณ 5 ปี โดยคนโบราณจะรู้จักปาท่องโก๋ย่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากการย่างเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในการถนอมอาหารให้สามารถเก็บได้นานถึง 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น ปัจจุบันมีการขยายสาขาในลักษณะของธุรกิจครอบครัว ทำให้ไม่สามารถขยายได้มาก แต่ก็มีผู้ที่สนใจต้องการให้เราขยายในลักษณะของแฟรนไชส์ แต่เราให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมากกว่ากำไร
นายฐิติกร โชคะสุต ทายาทรุ่นที่ 2 |
การทำธุรกิจปาท่องโก๋ย่างนั้น ได้มีการปรับรูปแบบของการขายให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากการขายเป็นตัว ราคาตัวละไม่กี่สตางค์ในอดีต มาเป็นการขายเป็นชุด โดยมีทั้งปาท่องโก๋ราดซอส และปาท่องโก๋กับไอศกรีม ซึ่งราคาในการจำหน่ายอยู่ที่ชุดละ 30 บาท โดยซอสที่ใช้ได้แก่ สังขยา ช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี ส้ม และนมข้น ส่วนไอศกรีมก็จะมีหลายรสชาติ โดยรสชาติดั้งเดิมก็คือ รสกะทิ ส่วนที่มีเพิ่มขึ้นมาก็จะเป็น คุ้กกี้แอนด์ครีม รัมเรซิน บลูเบอร์รี เป็นต้น ซึ่งเป็นไอศกรีมโฮมเมดทั้งหมด และมีการตกแต่งรูปลักษณ์ของไอศกรีมในแบบญี่ปุ่นเพื่อให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้ากับวัยรุ่นได้ดีอีกด้วย
ผลจากการพัฒนารูปแบบการขายให้อินเทรนด์น่ารับประทาน ทำให้มีกลู่มลูกค้าวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้นตาม ยอดการขายจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากปาท่องโก๋ย่างแล้ว ยังมีข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหน้าไก่ ก๋วยเตี๋ยวทะเล เพิ่มอีก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มักจะรับประทานขนมหวานต่อจากของคาว ทำให้ปาท่องโก๋กับไอศกรีมกลายเป็นสินค้าขายดี รวมถึงชาวต่างชาติก็ชื่นชอบด้วย เหมือนเปลี่ยนจากการกินวาฟเฟิลกับไอศกรีม เป็นการกินปาท่องโก๋กับไอศกรีมแทน
“ร้านปาท่องโก๋สาขาบางลำพูของเรา ถือเป็นประชาสัมพันธ์ของประเทศก็ว่าได้ เพราะเมื่อลูกค้าต่างชาติเข้ามารับประทานก็จะนำไปบอกต่อๆ กัน เป็นการเผยแพร่แบบปากต่อปาก เช่น ชาวจีน ฮ่องกง ซึ่งจะรู้จักปาท่องโก๋เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับเกาหลียังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้นำไปพูดต่อ ส่งเมลต่อ เป็นที่รู้จักและสนใจอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น อีกทั้งราคาขายตามเมนู ไม่มีการชาร์จเพิ่มราคาสำหรับชาวต่างชาติเหมือนที่อื่น"
แต่เดิมชื่อร้าน “ปาท่องโก๋เสวย” แต่ลูกสาวเปลี่ยนมาเป็น “ปาท่องโก๋” เฉยๆ เนื่องจากต้องการให้ลูกค้าสงสัยว่า ปาท่องโก๋ทำไม?? และทำให้เกิดความอยากลองเข้ามารับประทาน กลุ่มลูกค้าไม่จำกัดช่วงอายุ เพราะตอนนี้ถือว่าตีตลาดวัยรุ่นได้แล้ว ทำให้ทำลายเส้นกั้นระหว่างเวลาและอายุในการขายไปเลย เมื่อก่อนคนรับประทานปาท่องโก๋ต้องกินช่วงเช้า เลยเวลานั้นก็จะไม่กิน แต่ตอนนี้ทำให้ปาท่องโก๋สามารถหารับประทานได้ตลอดทุกเวลาที่ต้องการ
ในอนาคตมีแผนพัฒนาเป็นเฟรนไชส์ แต่คงขยายแค่ในครอบครัวก่อน เพื่อให้คุณภาพยังคงเดิม การทำปาท่องโก๋ให้คุณภาพเหมือนเดิมเป็นเรื่องยาก เนื่องจากคนที่รับเฟรนไชส์ไปขายก็มุ่งหวังที่จะได้กำไร โดยอาจมองข้ามเรื่องคุณภาพที่สั่งสมมานาน ทำให้ต้องศึกษาเรื่องนี้อีกมาก และต้องมีเวลาในการใส่ใจและเรียนรู้ที่จะทำธุรกิจอย่างจริงจัง เพราะยอมรับว่าห่วงเรื่องคุณภาพจะลดลง โดยร้านอยู่ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
เป็นไงกันบ้างครับ กับข้อมูล "ปาท่องโก๋" ที่เรียกได้ว่า เก่าแต่เก๋า กันเลยทีเดียว กับไอเดียเฉียบๆ แบบนี้จนทำให้เพิ่มมูลค่ากับของเดิมที่มีอยู่แล้ว หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ :
โทร. 02 -281 -9754
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
เรียบเรียงใหม่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น