Our Sponsors

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

งานทำโบว์-ริบบิ้น งาน part time-งานฝีมือ หารายได้เสริมทำที่บ้าน ตลอดปี


งานทำโบว์-ริบบิ้น งาน part time-งานฝีมือ หารายได้เสริมทำที่บ้าน ตลอดปี ถ้าอยากทำงานอิสระ เพื่อหารายได้เสริมทำที่บ้าน>>>อาชีพเกี่ยวกับงานประดิษฐ์บางชนิดก็แยกไม่ออกจากงานบริการ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับของขวัญ-ของที่ระลึก ที่ผูกรวมไว้ด้วยไอเดียการคิดประดิษฐ์จนเกิดเป็นชิ้นงาน ทาง Admin ขอเสนอช่องทางทำกิน จะนำเสนอในวันนี้…



รายได้เสริมทำที่บ้าน งานพิเศษทำที่บ้าน งานโบว์-ริบบิ้น´ ทำขายสร้างรายได้ตลอดปี


กาญจนา ไพบูลย์ธนศาล เจ้าของงานบริการรับผลิตออกแบบโบและริบบิ้น เล่าว่า เดิมทำเป็นงานอดิเรก โดยอาศัยเวลาว่างจากงานประจำรับงานผลิตโบและริบบิ้น ต่อมาคิดว่าน่าจะทำเป็นอาชีพหลักได้ เพราะสินค้าประเภทนี้สามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี และตลาดมีความต้องการสินค้าอย่างสม่ำเสมอ จึงตัดสินใจลงมาจับธุรกิจดังกล่าวนี้อย่างเต็มตัว โดยนอกเหนือจากการวิ่งออกไปหาลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับจัดของขวัญแล้ว ก็ยังใช้ช่องทางการขายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยจัดทำเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นในชื่อ www.missribbin.com ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะลูกค้าจะสามารถเห็นสินค้า และเป็นการลงทุนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายมากเท่ากับการเปิดร้าน-มีหน้าร้าน โดยที่ร้านจะทั้งขายปลีกและขายส่ง


รวมถึงรับผลิตตามคำสั่งซื้อพิเศษของลูกค้า

ตรงช่องทางการจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ ก็จะมีทั้งลูกค้าที่เป็นบริษัท องค์กรห้างร้าน และยังมีลูกค้าทั่วไปที่สั่งทำในจำนวนไม่มากชิ้น ถือว่าเป็นช่องทางการขายที่ดีช่องทางหนึ่งในปัจจุบัน เจ้าของงานระบุ

เจ้าของงานบอกอีกว่า อาชีพประดิษฐ์โบและริบบิ้นนี้ สามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี แต่ลูกค้า ยอดสั่งทำ ความต้องการสินค้า จะเพิ่มมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันวาเลนไทน์ สำหรับรูปแบบสามารถพลิกแพลงต่อยอดได้เรื่อย ๆ แต่โดยส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะนิยมแบบโบและริบบิ้นที่ดูเรียบแ เป็นหลัก

แต่ทั้งนี้ ก็จำเป็นต้องติดตามความนิยมและความต้องการของตลาดด้วย เนื่องจากความต้องการของลูกค้าจะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา โดย
ปัจจุบันงานที่ผลิตออกจำหน่ายก็มี อาทิ โบกระเช้า, โบกล่องของขวัญ, โบประดับหน้าอก, โบติดถ้วยรางวัล, โบกรรมการ, โบติดกรอบรูป, โบของตกแต่งอื่น ๆ, ริบบิ้นห่อเหรียญโปรยทาน, ริบบิ้นช่อดอกไม้ เป็นต้น

ส่วนใหญ่รูปแบบของโบและริบบิ้นจะไม่หนีกันมากนัก ที่นิยมก็จะเป็นแบบโบกระเช้าและโบตะกร้อ จะแตกต่างก็ในเรื่องสีสัน ลวดลาย และของตกแต่งมากกว่า กาญจนากล่าวถึงเทคนิคการทำตลาด

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานประเภทนี้ หลัก ๆ ประกอบด้วย ริบบิ้น, ไม้บรรทัด, กรรไกร, คัตเตอร์, กระดาษแข็งสำหรับทำแบบ, เข็มกับด้าย และวัสดุตกแต่งใช้ประดับชิ้นงาน อาทิ กระดิ่ง, ลูกบอลติดกากเพชร, ลูกไม้ที่ใช้ในงานประดิษฐ์ดอกไม้, ลวดสี, ดิ้นเงิน-ดิ้นทอง และอื่น ๆ ตามต้องการ โดยวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้หาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทำงานฝีมือทั่วไป

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ถือว่าใช้ไม่มาก ใช้เงินลงทุนประมาณ 500 บาทขึ้นไป ส่วนทุนวัตถุดิบ อยู่ที่ประมาณ 40% จากราคาขาย ที่เริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 1 บาทไปจนถึง 120 บาท ขึ้นกับขนาด ความยากง่ายของงาน

ขั้นตอนการทำ ในที่นี้จะยกมา 2 ตัวอย่าง แบบแรก การทำโบตะกร้อ เริ่มจากนำกระดาษแข็ง หรืออาจใช้กระดาษกล่องแทนก็ได้ นำมาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดความยาว 5 นิ้ว (ความยาวของกระดาษแบบขึ้นกับขนาดของโบตะกร้อ) จากนั้นนำริบบิ้นมาพันทบกันไปมาให้ครบจำนวน 9 รอบ ซึ่งจำนวนรอบที่พันนี้จะเป็นตัวกำหนดความหนาของโบที่ทำ โดยทำแบบนี้ให้ได้ 2 ชิ้น เมื่อพันครบแล้วดึงริบบิ้นออกมา แล้วใช้กรรไกรตัดปลายทั้ง 2 ด้านให้เป็นปลายแหลมทั้ง 2 ชิ้น จากนั้นนำมาผูกไขว้เข้าด้วยกัน ให้เป็นรูปกากบาท ใช้ด้ายหรือริบบิ้นเล็กรงกลางให้แน่น เมื่อแน่นดีแล้วก็ทำการคลี่ริบบิ้นที่พับทบกันอยู่ออกมา จากนั้นจึงนำริบบิ้นอีกสีหรือสีเดียวกันมาผูกเพื่อให้เป็นหางของโบตะกร้อ ตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่งตามชอบ เป็นอันเสร็จ
   
ส่วนอีกแบบ การทำโบกระเช้า เริ่มจากนำริบบิ้นผ้าต่วนขนาดความกว้าง 5 เซนติเมตร มาตัดออกให้ได้ความยาวประมาณ 130 เซนติเมตร จากนั้นนำริบบิ้นที่ตัดไว้มาทำการพันโดยให้หูโบมีขนาดเท่า ๆ กัน แล้วจึงทำการจับจีบและมัดด้วยด้าย เป็นอันเสร็จ ทั้งนี้ความสวยงามของการทำโบกระเช้าขึ้นอยู่กับการเลือกใช้สีริบบิ้น รวมถึงการเพิ่มจำนวนโบหรือที่เรียกว่าการทำเลเยอร์ (Layer) ยิ่งมีเลเยอร์มาก ก็จะยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับโบกระเช้า

สำหรับคนที่สนใจอาชีพนี้ คุณสมบัติแรกคือต้องเป็นคนใจเย็น อดทน ค่อย ๆ ฝึกฝนจนชำนาญ ก็จะทำชิ้นงานดี ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องการ
สต๊อกวัตถุดิบไว้ด้วย เพราะบางครั้งอาจจะมีงานสั่งทำพิเศษที่เป็นงานด่วนจากลูกค้าเข้ามา ซึ่งหากคิดจะทำเป็นธุรกิจก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ เจ้าของงานกล่าวแนะนำ
´งานโบ-ริบบิ้น´ ทำขายสร้างรายได้ตลอดปี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา:www.new.tlchai.com
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: ศิริโรจน์ ศิริแทพย์  นสพ.เดลินิวส์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น